Print Page

Font Size:

การประยุกต์ใช้ 5G ในโรงงานอุตสาหกรรมทำได้อย่างไรบ้าง ?

วันที่ : 17 July 2024 | หมวดหมู่ :

เรียกได้ว่าทุกวันนี้ “5G” คือเทคโนโลยีที่อยู่คู่กับเราในแทบทุกมิติชีวิตไปแล้ว เพราะไม่เพียงช่วยเพิ่มความเร็วให้กับระบบอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ในภาคการผลิตก็ได้มีการประยุกต์ใช้ 5G ในโรงงานอุตสาหกรรมกันเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งสิ่งนี้อาจเป็นก้าวสำคัญที่จะนำพาไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งต่อไป ดังนั้น เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้ประกอบการที่ยังลังเลอยู่ว่าจะลงทุนกับ 5G ในโรงงานดีหรือไม่ บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ 5G และการนำมาประยุกต์ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมให้มากขึ้นแบบเข้าใจง่าย ติดตามได้เลย 

วิศวกรกำลังใช้งานโซลูชันโรงงานอัจฉริยะ

ทำความเข้าใจเทคโนโลยี 5G

ก่อนจะไปถึงเรื่องการประยุกต์ใช้ 5G ในโรงงานอุตสาหกรรม อันดับแรก ผู้ประกอบการควรเข้าใจความหมายของเทคโนโลยี 5G เสียก่อน 

เทคโนโลยี 5G คือเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายยุคที่ 5 ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี 3G และ 4G ที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน โดย 5G มีจุดเด่นในด้านความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูงขึ้น ความหน่วงต่ำ และสามารถรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้จำนวนมากพร้อมกัน ด้วยเหตุนี้ 5G จึงกลายเป็นนวัตกรรมใหม่ที่พร้อมเข้ามาพลิกโฉมอุตสาหกรรมให้แตกต่างไปจากเดิม

ความเร็วในการรับส่งข้อมูลของ 5G สูงกว่า 4G ถึง 100 เท่า โดยความเร็วสูงสุดในทางทฤษฎีที่ 20 Gbps และด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลของ 5G ทำให้สามารถดาวน์โหลดหรืออัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการการประมวลผลได้แบบเรียลไทม์

นอกจากความเร็วแล้ว 5G ยังมีความหน่วงที่ต่ำกว่าเทคโนโลยีรุ่นก่อนอย่างเทียบไม่ติด โดยค่าความหน่วงอยู่ที่ 1 มิลลิวินาทีเท่านั้น ซึ่งการมีความหน่วงที่ต่ำของ 5G ทำให้การสื่อสารมีการตอบสนองได้ทันที เหมาะสำหรับการนำไปใช้ในงานที่ต้องการความเร็วในการตอบสนองสูง เช่น ควบคุมเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม

ประโยชน์ของการประยุกต์ใช้ 5G ในโรงงานอุตสาหกรรม

ด้วยคุณสมบัติข้างต้นที่โดดเด่น ผู้ประกอบการยุคนี้จึงได้มีการประยุกต์ใช้ 5G ในโรงงานอุตสาหกรรมกันอย่างกว้างขวางขึ้นเรื่อย ๆ เพราะถึงแม้จะใช้เงินลงทุนสูงกว่าโรงงานรูปแบบเก่า แต่ผลตอบแทนที่ได้รับในระยะยาวจะคุ้มค่ากว่ามาก โดยประโยชน์ของการประยุกต์ใช้ 5G ในโรงงานอุตสาหกรรมมีดังต่อไปนี้ 

  • การเชื่อมต่อเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น : ความรวดเร็วของ 5G ช่วยให้อุปกรณ์จำนวนมากสามารถสื่อสารได้พร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักร หุ่นยนต์ เซนเซอร์ หรือแม้แต่อุปกรณ์สวมใส่ของพนักงาน ผ่านเครือข่ายไร้สายความเร็วสูง ส่งผลให้กระบวนการผลิตเป็นไปอย่างอัตโนมัติ แม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • การบริหารจัดการคลังทำได้ดียิ่งขึ้น : 5G ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการบริหารจัดการคลัง ด้วยเทคโนโลยี Ultra-Reliable Low Latency Communication (URLLC) ที่ให้การสื่อสารแบบเรียลไทม์ ทำให้ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เช่น การสต็อกสินค้า การจัดส่ง การเบิกจ่ายวัตถุดิบ รวมถึงการดำเนินงานของเครื่องจักรสามารถส่งตรงถึงผู้เกี่ยวข้องได้ทันทีแบบไร้ดีเลย์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนจัดการสินค้า อีกทั้งยังช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดจากข้อผิดพลาดในกระบวนการทำงานได้อีกด้วย
  • เพิ่มความปลอดภัยให้กับโรงงานอุตสาหกรรม : การประยุกต์ใช้ 5G ในโรงงานอุตสาหกรรมยังมีประโยชน์ในแง่การเพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากสามารถใช้เทคโนโลยีเครือข่ายส่วนตัว (Private Network) แยกออกจากเครือข่ายสาธารณะได้ พร้อมกับเข้ารหัสข้อมูลแบบ End-to-End เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยี Enhanced Mobile Broadband (eMBB) ที่ช่วยให้สามารถรับส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลได้สะดวก ทำให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ความปลอดภัยได้อย่างราบรื่น เช่น กล้องวงจรปิดความละเอียดสูง เข้ากับ ระบบ AI เพื่อตรวจจับความผิดปกติ และแจ้งเตือนได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะช่วยยกระดับความปลอดภัยในโรงงานไปอีกขั้น

จากประโยชน์ของการประยุกต์ใช้ 5G ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ยกมา ทำให้ได้เห็นว่าบทบาทของ 5G ในภาคอุตสาหกรรมไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญที่ต่อการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และนำมาซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างก้าวกระโดด ขณะเดียวกันยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงานของผู้ปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรมให้ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืนอีกด้วย

การประยุกต์ใช้ 5G ในโรงงานอุตสาหกรรมผ่านหุ่นยนต์อัจฉริยะ

โซลูชัน “Remote Monitoring” ยกระดับโรงงาน IoT บนเครือข่าย 5G กับ Mitsubishi Electric FA

Mitsubishi Electric Factory Automation ร่วมกับ AIS Business 5G พร้อมยกระดับการประยุกต์ใช้ 5G ในโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยโซลูชัน “Remote Monitoring” ที่จะมอบประสบการณ์การควบคุมอุปกรณ์การผลิตจากระยะไกล เพื่อให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถควบคุมการทำงานของสายพานการผลิตได้อย่างไร้ขีดจำกัด สะดวกในการควบคุม ตรวจสอบ และวิเคราะห์การผลิตในโรงงานโดยไม่ต้องเดินทางไปที่หน้าพื้นที่จริงได้อย่างแม่นยำ

Remote Monitoring เป็นหนึ่งใน FA Remote ซึ่งเป็นโซลูชันการตรวจสอบระยะไกล ด้วยความสามารถในการตรวจสอบ KPI ต่าง ๆ ภายในโรงงาน รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ได้ตลอดเวลา ด้วยซอฟต์แวร์ที่จะตอบโจทย์โซลูชันทั้ง 2 ตัว ได้แก่

  • GENESIS64™ เป็นซอฟต์แวร์แห่งอนาคตที่สามารถนำเสนอการแสดงภาพจำลองแบบ Real-time รวมถึงมอบความคล่องตัว การวิเคราะห์ และการเชื่อมต่อสำหรับมุมมองการผลิตระบบอัตโนมัติ จึงตอบโจทย์กับการใช้งานบนเครือข่าย 5G ที่มีความเร็วจาก Bandwidth ที่กว้างกว่า และตอบสนองได้อย่างทันที เนื่องจากมี Latency ที่ต่ำ ทำให้อุตสาหกรรมและระบบทางธุรกิจสามารถจัดการควบคุมระบบได้แบบอัจฉริยะ
  • GOT Mobile ซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้โรงงานสามารถควบคุมอุปกรณ์ GOT ผ่าน Mobile Devices ต่าง ๆ ได้ ซึ่งอาศัยเทคโนโลยีด้านระบบ IT เข้ามามีส่วนช่วยในด้านการสื่อสารข้อมูลระหว่างกัน จึงเหมาะสมสำหรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G อย่างยิ่ง ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมสามารถควบคุมพื้นที่การผลิตได้แบบ IIoT ที่สามารถสั่งงานการผลิตได้ทันทีผ่าน Web Browser ในเครื่อง PC หรือ อุปกรณ์ประเภท Mobile Devices

การเติมเต็มประสิทธิภาพการทำงานของเทคโนโลยี 5G และโซลูชันอัจฉริยะ ‘Remote Monitoring’ กำลังจะถูกพัฒนาเปลี่ยนโฉมการผลิตให้กลายเป็น e-F@ctory ด้วยการประยุกต์ใช้ 5G ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มี High Bandwidth และ Low Latency ทำให้การผลิตมีความแม่นยำมากขึ้น รวมถึงการใช้งานโซลูชัน การวิเคราะห์ และการใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน นอกจากนั้นยังเพิ่มความปลอดภัยจากความเสี่ยงหรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

ผู้ประกอบการท่านใดสนใจอยากยกระดับโรงงานเพื่อให้เท่าทันทุกการเปลี่ยนแปลงด้วย ‘Remote Monitoring’  ผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรจาก Mitsubishi Electric Factory Automation พร้อมให้คำปรึกษาการติดตั้งโซลูชันโรงงานอัจฉริยะที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ sales@MitsubishiFA.co.th หรือโทร 02 092 8600

แบ่งปันเพจนี้
Subscribe
Receive the latest headlines, right to your inbox